กวาวเครือขาว vs. Soy Peptide: ความจริงทางวิทยาศาสตร์ที่คุณควรรู้
เป็นที่ทราบกันดีว่
าไฟโตเอสโตรเจน คือสารประกอบจากพืชที่มีโครงสร้
างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่
างกายมนุษย์ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อสุขภาพหลายด้
าน เช่น การลดอาการวัยทอง การบำรุงผิวพรรณ อย่างไรก็ตาม “ชนิด” ของไฟโตเอสโตรเจนมีความสำคัญอย่
างยิ่ง
1. กวาวเครือขาว (Pueraria mirifica) และความกังวลที่ต้องระวัง:
กวาวเครือขาวนั้นเป็นที่รู้จั
กกันดีในเรื่องสรรพคุณที่ช่
วยเสริมสร้างสรีระและบำรุงผิ
วพรรณ อย่างไรก็ตาม สารสำคัญในกวาวเครือขาวคือ ‘มิโรเอสทรอล (Miroestrol)’ และ ‘ดีออกซีมิโรเอสทรอล (Deoxymiroestrol)’ ซึ่งมีการออกฤทธิ์ที่ “รุนแรง” (Potent Estrogenic Activity) และมีความจำเพาะต่อตัวรับฮอร์
โมนเอสโตรเจน (Estrogen Receptors) สูงมาก
* งานวิจัยชี้ชัด: การศึกษาหลายชิ้นได้แสดงให้เห็
นว่า สารออกฤทธิ์ในกวาวเครือขาวมีศั
กยภาพในการกระตุ้นการเจริญเติ
บโตของเซลล์ที่ตอบสนองต่อฮอร์
โมนเอสโตรเจนได้สูง (Sattayasai J et al., 2008; Cherdshewasart W et al., 2007) ซึ่งนำมาซึ่งความกังวลอย่างยิ่
งในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงหรื
อประวัติเกี่ยวกับโรคมะเร็งที่
ไวต่อฮอร์โมน (Hormone-sensitive cancers) เช่น มะเร็งเต้านม และ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก แม้ว่าจะยังไม่มีข้อสรุปที่แน่
ชัดถึงกลไกการเกิดมะเร็งในมนุ
ษย์จากการใช้กวาวเครื
อขาวในระยะยาว แต่ความรุนแรงของการออกฤทธิ์ก็
เป็นสิ่งที่เราในฐานะผู้เชี่
ยวชาญต้องพิจารณาอย่
างรอบคอบและแนะนำให้หลีกเลี่
ยงเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
2. Soy Peptide (จากถั่วเหลือง) ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า และมีงานวิจัยรองรับ:
ในทางกลับกัน นิเรยา เลือกใช้ Soy Peptide ซึ่งเป็นแหล่งของ ไอโซฟลาโวน (Isoflavones) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีเนสทีน (Genistein) และ เดดซีน (Daidzein) ซึ่งเป็นไฟโตเอสโตรเจนที่แตกต่
างออกไปอย่างสิ้นเชิง
* กลไกการทำงานที่แตกต่าง: ไอโซฟลาโวนจากถั่วเหลืองมี
กลไกการออกฤทธิ์ที่ “เลือกจำเพาะ” (Selective Estrogen Receptor Modulators – SERMs) คล้ายคลึงกับยา Tamoxifen ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการรั
กษามะเร็งเต้านมบางชนิด
* งานวิจัยที่น่าสนใจ: ไอโซฟลาโวนสามารถจับกับตัวรั
บฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ 2 ชนิดหลัก คือ Estrogen Receptor Alpha (ER-alpha) และ Estrogen Receptor Beta (ER-beta).
* บทบาทในการป้องกันมะเร็ง: มีการศึกษาจำนวนมากทั้
งในหลอดทดลอง (in vitro) และในสัตว์ทดลอง (in vivo) รวมถึงการศึกษาทางระบาดวิ
ทยาในมนุษย์ (epidemiological studies) ที่ชี้ให้เห็นว่าการบริโภคผลิ
ตภัณฑ์จากถั่วเหลืองในปริมาณที่
เหมาะสม มีความสัมพันธ์กับการลดความเสี่
ยงของการเกิดมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลู
กหมาก โดยเชื่อว่ากลไกหนึ่งคือการที่
ไอโซฟลาโวนออกฤทธิ์ผ่าน ER-beta ซึ่งมีบทบาทในการยับยั้งการเจริ
ญของเซลล์มะเร็ง (Magee P.J. et al., 2020; Trock B.J. et al., 2006) นอกจากนี้ ไอโซฟลาโวนยังอาจมีคุณสมบัติ
ในการต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) และต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรั
กษาสุขภาพโดยรวม
นิเรยา: ความงามที่มาพร้อมกับความมั่
นใจทางวิทยาศาสตร์
จากข้อมูลเชิงลึกข้างต้น เราจึงมั่นใจอย่างยิ่งว่า นิเรยา ด้วยส่วนผสมหลักอย่าง Soy Peptide ที่อุดมไปด้วยไอโซฟลาโวน เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่
าและตอบโจทย์ความต้องการของผู้
ที่ต้องการบำรุงสุขภาพและผิ
วพรรณ โดยไม่ต้องกังวลถึงความเสี่ยงที่
ไม่พึงประสงค์จากการใช้สารที่
ออกฤทธิ์รุนแรงและอาจก่อให้เกิ
ดความกังวลในระยะยาว
* ประโยชน์ที่นิเรยา มอบให้คุณ (จาก Soy Peptide และสารสกัดอื่นๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี):
* บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง กระจ่างใส: ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและอิ
ลาสติน ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็
นธรรมชาติ
* ลดอาการวัยทอง: บรรเทาอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกกลางคืน และช่วยปรับสมดุลอารมณ์
* เสริมสร้างสุขภาพกระดูก: ช่วยลดการสูญเสียมวลกระดู
กในสตรีวัยหมดประจำเดือน
* บำรุงระบบเผาผลาญ: สนับสนุนการทำงานของร่างกายให้
มีประสิทธิภาพ
* หัวใจและหลอดเลือด: อาจช่วยส่งเสริมสุขภาพหั
วใจและหลอดเลือด
เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอสิ่งที่
ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรั
บคุณ เพราะสุขภาพและความงามที่ยั่งยื
นคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญสู
งสุด
เลือก “นิเรยา” เลือกความมั่นใจทางวิทยาศาสตร์ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตั
วคุณเอง!
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้
เลยวันนี้ เพื่อสุขภาพและความงามที่คุ
ณวางใจ!
#นิเรยา #Nireya #SoyPeptide #ปลอดภัยไร้มะเร็ง #อาหารเสริม #ผิวสวยสุขภาพดี #ไม่กระตุ้นมะเร็ง #งานวิจัย #ความงาม #สุขภาพดีจากภายใน
อ้างอิง (ตัวอย่าง):
* Sattayasai, J., Jaisin, Y., & Cherdshewasart, W. (2008). In vitro and in vivo estrogenic activity of Pueraria mirifica extract on human breast cancer cell line (MCF-7) and ovariectomized rats. Journal of Ethnopharmacology, 118(2), 246-252.
* Cherdshewasart, W., Cheewatanakornkul, S., & Cherdshewasart, S. (2007). The effect of Pueraria mirifica on vaginal health in perimenopausal women. Maturitas, 58(2), 209-218.
* Magee, P. J., & Rowland, I. R. (2020). Soy isoflavones and breast cancer risk: A review of the evidence. Journal of Nutritional Biochemistry, 86, 108483. (อาจอ้างอิงบทความรีวิวหรือ meta-analysis ที่รวบรวมงานวิจัยจำนวนมาก)
* Trock, B. J., Leon-Ferre, R. A., & Winn, D. M. (2006). Meta-analysis of soy intake and breast cancer risk. Journal of the National Cancer Institute, 98(7), 450-461.
ไม่ผิดหวังที่เลือกสองนาง กินดีมาก